About nananews

Manual Description Here: Ea eam labores imperdiet, apeirian democritum ei nam, doming neglegentur ad vis.

บวบเหลี่ยม เยี่ยมด้วยประโยชน์


บวบเหลี่ยม เยี่ยมด้วยประโยชน์ (Lisa)

          ผักเนื้อเย็น เนื้อเขียวใส มากด้วยใยอาหาร

          บวบที่มีรสอร่อยและคนนิยมรับประทานกันมากที่สุดคือ บวบเหลี่ยม ซึ่งจะผลิดอกออกผลสะพรั่งให้พวกเรากินกันได้ทุกฤดู ต่างไปจากบวบหอมที่หารับประทานได้เฉพาะช่วงหน้าฝน ในขณะที่บวบงูก็จะออกผลดกในช่วงปลายฝนต่อต้นฤดูหนาว บวบเหลี่ยมจึงเป็นตัวแทนของเหล่าบวบที่มีให้คนไทยบริโภคได้ครบทั้ง 3 ฤดูเลยทีเดียว

          บวบเหลี่ยมเป็นชื่อที่คนภาคกลางเรียกกัน แต่ทางภาคเหนือจะมีสำเนียงใช้เรียกที่แตกต่างกันอย่างมาก เช่น หมักนอย มะนอยเหลี่ยม บางแห่งก็เรียกกันว่า มะนอยเลียม คนบางท้องถิ่นเรียกมะนอยเฉยๆ มีบ้างที่เรียกแปลกออกไปกว่านั้นอีก เช่น มะนอยข้อง มะนอยงู

          ส่วนชื่อสามัญของเขาเรียกได้ทั้ง Angled Gourd หรือ Angled Loofah ก็ได้ แต่ชื่อทางพฤกษศาสตร์ มีอยู่เพียงชื่อเดียวเท่านั้น คือ Luffa acutangula Roxb. ซึ่งจัดเป็นพืชในตระกูลเดียวกับแตงกวา แตงไทย ที่เคยเขียนถึงไปแล้วนั่นคือ วงศ์ Cucurbitaceae

           ลักษณะทางพฤกษศาสตร์

          บวบเป็นไม้เถายาว โตเร็ว มีอายุประมาณ 1 ปี เป็นพืชตระกูลเดียวกับแตงทั้งหลาย แต่ว่าอยู่คนละสกุลกัน คือ แตงอยู่ในสกุล Cucumis แต่บวบอยู่ในตระกูล Luffa  บวบมีลำต้นเป็นเหลี่ยมสัน ตามข้อมีมือที่ใช้เกาะเกี่ยวเป็นเส้นยาว ใบเป็นแบบใบเดี่ยวเรียงสลับกัน แผ่นใบเป็นรูปเหลี่ยมมีราว 5-7 เหลี่ยม ตามขอบใบมีรอยเว้าตื้นๆ ปลายใบค่อนข้างแหลม  ส่วนโคนใบเว้าลึกเข้าด้านในจนดูคล้ายกับรูปหัวใจ ก้านใบยาวราว 4-9 ซม. และเป็นเหลี่ยมเหมือนกับลำต้น ดอกเป็นสีเหลือง ออกดอกตามง่ามใบ ทั้งแบบเป็นดอกเดี่ยวๆ หรือเป็นช่อ โดยมีดอกทั้งตัวเมียและตัวผู้อยู่บนต้นเดียวกัน สำหรับผลเป็นรูปทรงคล้ายกระบอกกลม ยาวราวๆ 20 ซม. ผิวมีเหลี่ยมเป็นเส้นไปตามความยาวของผล นับได้ 10 เหลี่ยมเท่ากันทุกลูก ลองท้าพิสูจน์ให้นับดูได้ โคนผลเรียวเล็กแล้วค่อยๆ กว้างออก ก่อนที่จะค่อยๆ แคบลงไปอีกครั้งจนไปบรรจบกันที่ปลายผลอย่างสวยงาม  ให้ผลดกและงามยามหน้าฝน ขยายพันธุ์ง่ายโดยการใช้เมล็ด ชอบขึ้นตามที่รกร้าง หรือที่ชื้นแฉะตามริมคลอง และแหล่งน้ำขนาดใหญ่ คนตามชนบทนิยมปลูกไว้ตามบ้าน เป็นได้ทั้งรั้ว ทั้งอาหาร

           คุณค่าและคุณประโยชน์

          ผลของบวบที่ยังอ่อนเอ๊าะ นั้นอร่อยมาก มีรสหวานนิดๆ ตามธรรมชาติ จะนำไปทำอาหารอะไรก็อร่อยเยี่ยมยอดทุกเมนู ไม่ว่าจะเป็นผัด ต้ม หรือ แกง อย่างเช่น ต้มจิ้มกับน้ำพริกรสจัด หรือจะผัดกับ ไข่ หมู กุ้ง ส่วนแกงที่นิยมทานกันคือ แกงส้ม แกงเลียง และแกงกับปลาแห้ง

          ต้องยอมรับกันตรงๆ อย่างหนึ่งว่า บวบไม่ได้เป็นพืชผักที่มีวิตามินสำคัญอะไรมากมาย แต่เขาก็ชดเชยความด้อยตรงนี้ลงได้ด้วยความเด่นในเรื่องที่เป็นผักที่มีน้ำเยอะ คนโบราณเขาถือว่าบวบเป็นผักธาตุเย็น ช่วยคลายความร้อนได้ดี และมีคุณค่าทางพืชสมุนไพรสูง และที่มองข้ามไม่ได้คือ นอกจากจะมีเส้นใยสูงเป็นตัวชูโรงแล้ว บวบเหลี่ยมยังให้แร่ธาตุตัวสำคัญอย่างฟอสฟอรัสในปริมาณที่ค่อนข้างสูงหรือธาตุเหล็กที่ช่วยสร้างเม็ดเลือด รวมทั้งแร่ธาตุอีกหลายอย่างที่ช่วยเสริมสร้างฟันและกระดูกของเราได้เป็นอย่างดีอีกด้วย

          เมื่อหันกลับมามองประโยชน์ทางยาของบวบเหลี่ยมแล้ว จะพบว่ามีมากมายไล่ตั้งแต่ผลอ่อนที่เรานำมาทำอาหารได้สารพัดเมนู นอกจากความหวานอร่อยที่ได้แน่ ๆ แล้วยังเป็นยาแก้ร้อนใน ช่วยระบายท้อง และช่วยขับปัสสาวะ ขับเสมหะ ทำให้ชุ่มคอ ลดไข้ และบำรุ่งร่างกายได้เยี่ยมอีกด้วย

          ในขณะที่ใบนอกจากจะใช้ต้มกับน้ำดื่ม เพื่อช่วยขับปัสสาวะได้ดีเหมือนกับผลแล้ว ยังช่วยแก้อาการปัสสาวะเป็นเลือด ขับเสมหะ แก้ไข้ ม้ามโต และริดสีดวงทวาร ก็รวมทั้งยังถอนพิษได้ดีอีกด้วย ทั้งพิษแมลงสัตว์ กัด ต่อย แก้พิษคัน ส่วนผู้หญิงดื่มน้ำที่ต้มจากใบ ช่วยแก้ให้ระดูมาเป็นปกติได้

           การเลือกซื้อบวบ

          เทคนิคการเลือกซื้อบวบมาทำอาหารให้อร่อยนั้น ต้องดูที่ขั้ว ขั้วของบวบเหลี่ยมที่ดีต้องสดเขียว สวยเย็นตา ผลยาวตรง ไม่หักงอ ผลสีเขียวเข้ม เหลี่ยมเป็นสันคม

           การต้มบวบให้หวานแบบธรรมชาติ

          นอกจากการเลือกซื้อให้ได้บวบเหลี่ยมที่ดีอร่อย และไม่ขมแล้ว การต้มให้มีรสหวานนิดๆ ตามธรรมชาติของเนื้อบวบแท้ๆ ก็สำคัญ ซึ่งทำได้โดยไม่ต้องปอกเปลือกออกทั้งลูก เพียงแค่ปาดสันเหลี่ยมของเขาออกเท่านั้น ก็ต้มได้เลย นอกจากได้รสหวานใสแล้ว เปลือกบวบยังช่วยป้องกันไม่ให้สารอาหารสำคัญสูญเสียไปกับการต้มด้วย





today thai news
Read More...

อาหารอิงกรุ๊ปเลือด O และ B



อาหารอิงกรุ๊ปเลือด  (Lisa)

          หลายคนคงเคยสงสัยว่า ถ้าอยากมีสุขภาพดี ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ จำเป็นหรือไม่ที่จะต้องมานั่งรับประทานแต่อาหารเหมือนๆ กันกับคนอื่นๆ เช่น ต้องทานแต่น้ำเต้าหู้ งดทานเนื้อสัตว์ หรือออกกำลังกายด้วยวิธีเดียวกัน บุคคลแต่ละคนมีอุปนิสัยแตกต่างกันตามกรุ๊ปเลือด แน่นอนสารเคมีในร่างกาย ก็ย่อมแตกต่างกันตามกรุ๊ปเลือดด้วย ดังนั้น การทานอาหารตามกรุ๊ปเลือด อาจจะเป็นทางเลือกอีกวิธีหนึ่งที่น่าสนใจ มีหลายๆ คนได้ปฎิบัติตามและพบว่าน้ำหนักลดลง และดูเป็นหนุ่มเป็นสาวขึ้นอีกด้วย

    เลือดกรุ๊ป โอ
          หากคุณมีเลือดกรุ๊ปโอ คุณเป็นคนที่มีความเป็นผู้นำสูง และชอบเสี่ยง ถือกันว่าเลือดกรุ๊ปโอ เป็นกลุ่มเลือดที่        

          - รับประทานเนื้อวัว, เนื้อปลา (หลีกเลี่ยงเนื้อหมูทุกชนิด) ผัก และผลไม้มากๆ
          - งดแป้งสาลี
          - ออกกำลังกายแบบหนัก อย่างเช่น แอโรบิก


          แต่ถ้าหากคุณมีปัญหาเรื่องน้ำหนัก หรือส่วนเกิน ลองงดรับประทานอาหารที่ทำจากแป้งสาลีทุกชนิด เช่น ขนมปัง เค้ก และทานข้าวให้น้อยลง คุณจะพบว่าน้ำหนักและส่วนเกินลดลง ร่างกายกระฉับกระเฉงขึ้น

          บุคคลที่มีเลือดกรุ๊ปโอที่มีชื่อเสียง : โรนัลด์ เรแกน, พระราชินีอลิซาเบธที่ 2, อัล คาโปน



          เลือดกรุ๊ปบี

          หากคุณมีเลือดกรุ๊ปบี ถือว่าคุณเป็นคนที่โชคดี เพราะเป็นกลุ่มเลือดที่สมดุลที่สุดเนื่องจากเป็นคนที่มีภูมิคุ้มกันที่แข็งแรง และมีระบบย่อยอาหารดี จึงมีความสมดุลในชีวิต รับประทานอาหารได้เกือบทุกประเภท ฉะนั้นคุณควร

          - รับประทานอาหารได้ทั้งเนื้อ ปลา และผัก (แต่ควรงดเนื้อหมู)
          - รับประทานผลิตภัณฑ์จากนมได้ทุกชนิดโดยไม่แพ้
          - ออกกำลังกายปานกลาง อย่างเช่น ว่ายน้ำ หรือ เดิน





          แต่ค่อนข้างเสี่ยงต่อการติดเชื้อไวรัสที่ทำลายระบบประสาท ถ้ารับประทานอาหารผิดประเภท คนเอเซีย เช่น จีน ญี่ปุ่น เกาหลี โดยส่วนใหญ่จะเป็นคนกรุ๊ปเลือดบี ดังนั้นการรักษาของแพทย์จีนจึงเน้นความสมดุลตามแบบคนเลือดกรุ๊ปบี    




today thai news
Read More...

ใส่ใจอาหารการกิน เพื่อชีวิตที่ดีของตัวเอง



ใส่ใจอาหารการกินสักนิด เพื่อชีวิตที่ดีของตัวคุณเอง (Woman’s Story)

          อาหารการกินในชีวิตประจำของคนเรานั้นมีความสำคัญไม่น้อยเลยนะคะ ยิ่งคุณทำงานหนักแค่ไหน ใช้ร่างกายหนักมาโดยตลอด 365 วัน คุณก็ยิ่งต้องดูแลและใส่ใจกันเป็นพิเศษนิดนึงค่ะ..

 มื้อเช้า

          เนื่องจากมื้อเช้าเป็นมื้อที่สำคัญที่สุด อีกทั้งเป็นมื้อที่ช่วยให้จิตใจของคุณแจ่มใสไปทั้งวัน แถมยังช่วยให้การเผาผลาญดีและลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือดได้ด้วย

 โปรตีนที่ย่อยง่าย

lllllllllll
 โปรตีนจากสัตว์ เช่น เนื้อวัว เนื้อหมู เป็นโปรตีนที่ร่างกายต้องใช้เวลาในการย่อยนาน ควรหันมาทานโปรตีนที่ย่อยง่าย เช่น เนื้อปลา เต้าหู้ ถั่วเหลือง ประมาณอาทิตย์ละครั้ง จะช่วยเติมความฉลาดให้สมอง เพราะโอเมก้า 3 ในปลาจะเข้าไปเพิ่มรอยหยักให้สมอง แถมโปรตีนที่ย่อยง่ายยังจะช่วยให้การเต้นของหัวใจเป็นปกติ ไขมันน้อย และไม่ทำให้อ้วน

 ใช้น้ำมันมะกอกทำกับข้าว

          น้ำมันมะกอกไม่มีไขมันที่เป็นโทษต่อร่างกาย และยังช่วยสลายไขมันร้ายๆ ที่อุดตันในเส้นเลือดออกไป ช่วยป้องกันไม่ให้หัวใจวาย เส้นเลือดแตกในสมอง ถึงแม้น้ำมันมะกอกจะราคาแพง แต่ให้ประโยชน์ที่คุ้มค่าต่อร่างกาย

 ดื่มน้ำมากๆ

          ร่างกายของเราต้องการน้ำ 2 ลิตรต่อวัน หรือประมาณ 8 แก้ว ซึ่งน้ำที่เราดื่มเข้าไปจะล้างของเสียออกจากทุกระบบในร่างกายทำให้อุณหภูมิร่างกายคงที่ ฟื้นฟูระบบขับถ่าย รักษาความเข้มข้นของเลือดและทำให้เราสดชื่นทั้งวัน

 น้ำชาบำบัด

          ชาบำบัด ได้แก่ ชาดำ ชาเขียว ชาอูหลง ไม่ใช่ชาที่ขายตามท้องตลอดที่ผสมน้ำตาลทั่วไป ซึ่งชาบำบัดนี้ มีสารต้านอนุมูลอิสระ แค่ดื่มวันละ 1-3 แก้วก็ทำให้เราลดความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งกระเพาะอาหารไปได้ตั้ง 30% แล้ว

 ดื่มนมเติมแคลเซียม

          โรคกระดูกพรุน เป็นโรคที่เราต้องระวังกัน ในตอนวัยรุ่นนั้นจะยังไม่มีอาการ แต่เมื่อแก่ไปอาการเหล่านั้นจะปรากฏทันที ดังนั้นควรดื่มนม กินปลา หรือกินเต้าหู้เป็นประจำ เพื่อไม่ให้ร่างกายขาดแคลเซียม แคลเซียมไม่ได้มีดีแค่ช่วยให้กระดูกแข็งแรง เท่านั้น ยังทำให้ระบบประสาททำงานคล่องด้วย

 ธัญพืชแหล่งรวมอาหาร

          ได้แก่ ข้าวกล้อง ข้าวสาลี ลูกเดือย เมล็ดทานตะวัน และถั่วต่างๆ ธัญพืชคืออาหารที่จะทำให้เราสาวสวยเต่งตึงไปอีกนาน ทำให้ประสาททำงานดี สมองดีควบคุมน้ำตาลในเลือด แก้โรคทางพันธุกรรม ลดความเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจ แก้อาการความจำเสื่อม ป้องกันมะเร็ง และยังทำให้ระบบขับถ่ายทำงานดี ผิวพรรณสวยใสอีกด้วย

 กินผักหลายสี

          ควรกินให้ครบทุกสี เพราะแต่ละสีมีประโยชน์แต่ละอย่างต่างกันไป ยิ่งกินมากสีก็ยิ่งได้ประโยชน์มาก

 ลดกินขนมขบเคี้ยว

          บรรดาขนมหวานหรือขนมขบเคี้ยวต่างๆ ก็มีข้อดีอยู่ช่วยแก้เครียดให้เราได้ แต่ควรจะควบคุมปริมาณขนมพวกนี้ให้อยู่แค่ระดับที่ไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ไม่ควรกินเยอะ เพราะขนมพวกนี้คือตัวแม่ของไขมัน น้ำตาล และคาร์โบไฮเดรต ยิ่งกินยิ่งอ้วน แถมยังเป็นขนวนก่อมะเร็งอีกด้วยค่ะ





today thai news

Read More...

ถั่งเช่า สรรพคุณสุดอัศจรรย์ แก้นกเขาไม่ขัน ขุมพลังแห่งการต้านมะเร็ง






 ถั่งเช่า หรือ ตังถั่งเช่า สมุนไพรจีนสรรพคุณล้ำค่า ทั้งบำรุงสุขภาพ แถมรักษาอาการเจ็บป่วยได้เป็นอย่างดี ของดี ๆ ที่คู่ควรกับสุขภาพ

          เคล็ดลับสำคัญที่ทำให้การรักษาแบบแพทย์แผนจีนยังคงได้รับความนิยม ก็คงจะหนีไม่พ้นเรื่องของสมุนไพร ซึ่งสมุนไพรแต่ละชนิดที่ถูกนำมาใช้ก็อุดมไปด้วยคุณค่าและประโยชน์เพื่อสุขภาพ และหนึ่งในสมุนไพรที่ถูกขนานนามว่าเป็นสุดยอดสมุนไพรจีนก็ต้องยกให้กับ ถั่งเช่า สมุนไพรราคาสูงที่มีรูปร่างหน้าตาแปลก แต่กลับเต็มไปด้วยฤทธิ์ในการรักษาโรคโดยเฉพาะรักษาอาการเสริมสมรรถภาพทางเพศ ฉะนั้นเราลองมาทำความรู้จักกับสมุนไพรชนิดนี้กันให้มากขึ้นกันเลยดีกว่า


ถั่งเช่า สรรพคุณสุดอัศจรรย์ แก้นกเขาไม่ขัน ขุมพลังแห่งการต้านมะเร็ง
3,087อ่าน

234
ถั่งเช่า สรรพคุณสุดอัศจรรย์

          ถั่งเช่า หรือ ตังถั่งเช่า สมุนไพรจีนสรรพคุณล้ำค่า ทั้งบำรุงสุขภาพ แถมรักษาอาการเจ็บป่วยได้เป็นอย่างดี ของดี ๆ ที่คู่ควรกับสุขภาพ

          เคล็ดลับสำคัญที่ทำให้การรักษาแบบแพทย์แผนจีนยังคงได้รับความนิยม ก็คงจะหนีไม่พ้นเรื่องของสมุนไพร ซึ่งสมุนไพรแต่ละชนิดที่ถูกนำมาใช้ก็อุดมไปด้วยคุณค่าและประโยชน์เพื่อสุขภาพ และหนึ่งในสมุนไพรที่ถูกขนานนามว่าเป็นสุดยอดสมุนไพรจีนก็ต้องยกให้กับ ถั่งเช่า สมุนไพรราคาสูงที่มีรูปร่างหน้าตาแปลก แต่กลับเต็มไปด้วยฤทธิ์ในการรักษาโรคโดยเฉพาะรักษาอาการเสริมสมรรถภาพทางเพศ ฉะนั้นเราลองมาทำความรู้จักกับสมุนไพรชนิดนี้กันให้มากขึ้นกันเลยดีกว่า

ถั่งเช่า สรรพคุณสุดอัศจรรย์

 ถั่งเช่า คืออะไร

          ถั่งเช่า หรือ ตังถั่งเช่า คือ พืชตระกูลเห็ดราในสกุล Ophiocordyceps มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Ophiocordyceps sinensis มีชื่อเรียกทั่วไปอีกว่าหญ้าหนอน เกิดจากการที่ตัวหนอนอ่อนของตัวด้วงจำพวกผีเสื้อ หนอน มอด ตั๊กแตน หรือด้วงค้างคาวซึ่งมีเชื้อ มุดเข้าไปอยู่ใต้ดินในช่วงฤดูหนาว และค่อย ๆ กลายสภาพเป็นเชื้อราที่มีชื่อว่า Sclerotea และเมื่อถึงฤดูร้อนเส้นใยในตัวหนอนที่ตายแล้วก็จะสร้างดอกออกมาปกคลุมตัวหนอนจนมีรูปร่างคล้ายกระบอง จากนั้นก็จะเจริญเติบโตขึ้นมีลักษณะกลายต้นหญ้า โดยถั่งเช่า ประกอบด้วย 2 ส่วนได้แก่ ตัวหนอน และเห็ดที่เจริญเติบโตขึ้นบริเวณส่วนหัวของหนอน มีชื่อว่า Cordyceps sinensis (Berk.) Saec. รสชาติของถั่งเช่าออกขม และอมหวานเล็กน้อย สามารถกินได้ทั้งแบบสด ๆ หรือนำไปต้มเพื่อรับประทานก็ได้ ทั้งนี้ ถั่งเช่าที่ได้รับความนิยมในประเทศไทย ได้แก่ ถั่งเช่า และถั่งเช่าสีทอง ซึ่งเป็นเห็ดในสกุลเดียวกัน และมีสรรพคุณใกล้เคียงกัน

          ถั่งเช่าได้รับการขนานนามว่า "ไวอากร้าแห่งเทือกเขาหิมาลัย" เนื่องจากมีสรรพคุณโดดเด่นในเรื่องการเสริมสมรรถภาพทางเพศในเพศชาย อีกทั้งยังเป็นสมุนไพรที่อยู่ในแถบที่ราบสูงทิเบต ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีความสูงจากน้ำทะเลมากกว่า 4,000 เมตรขึ้นไป นอกจากนี้ก็ยังสามารถพบได้ในบริเวณภาคใต้ของมณฑลชิงไห่ เขตซางโตวในทิเบต มณฑลกานซู ภูฏาน เนปาล และยังมีการเพาะเห็ดชนิดนี้ในมณฑลเสฉวน ยูนนาน และกุ้ยโจว ถั่งเช่า ถือเป็นสมุนไพรจีนที่หายากและราคาแพง แต่มีสรรพคุณมากมาย ทำให้เจ้าสมุนไพรชนิดนี้ยังคงความนิยมสูงนั่นเอง 

 ถั่งเช่า สรรพคุณเด่น ๆ ที่อยากให้รู้

          ถั่งเช่าถือเป็นสมุนไพรที่อุดมไปด้วยสารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นโพลีแซคคาไรด์ (galactomannan) นิวคลีโอไทด์ (adenosine) กรดคอร์ไดเซปิก (Cordycepic Acid) ซึ่งเป็นสารที่มีเฉพาะในถั่งเช่า อีกทั้งยังมีกรดอะมิโน และเออร์โกสเตอรอล (Ergosterol) ที่มีฤทธิ์ในการต้านเชื้อรา ไม่เพียงเท่านั้น ยังมีสารอาหารที่สำคัญ อาทิ โปรตีน วิตามิน E วิตามิน K วิตามิน B1 วิตามิน B2 วิตามิน B12 โพแทสเซียม โซเดียม แคลเซียม แมกนีเซียม เหล็ก สังกะสี และซิลิเนียม จึงทำให้ถั่งเช่ากลายเป็นสมุนไพรที่ถูกนำมาใช้ในการบำรุงสุขภาพและรักษาอาการบางชนิด โดยที่โดดเด่นที่สุดก็คงจะหนีไม่พ้นเรื่องของการเสริมสมรรถภาพทางเพศ เราไปดูกันดีกว่าว่าสรรพคุณของถั่งเช่าจะมีอะไรบ้างค่ะ

1. ช่วยปรับการทำงานของหัวใจ

          ในเรื่องของหัวใจ ถั่งเช่าถือเป็นสมุนไพรที่มีสรรพคุณช่วยปรับอัตราการเต้นของหัวใจให้เป็นปกติได้ อีกทั้งยังช่วยบรรเทาอาการหัวใจขาดออกซิเจน และเพิ่มออกซิเจนให้หัวใจได้ เหมาะสำหรับบำรุงผู้ที่ป่วยเป็นโรคหัวใจเต้นผิดจังหวะ

2. เสริมสร้างการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน

          ในเรื่องของการสร้างเสริมภูมิคุ้มกัน ถั่งเช่าก็ทำได้ดีไม่ใช่น้อย เพราะถั่งเช่ามีสรรพคุณช่วยปรับปรุงการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันให้เป็นปกติ ช่วยให้ร่างกายสร้างเซลล์ภูมิคุ้มกันมากขึ้น กระตุ้นการสร้างแอนติบอดีในร่างกาย เพื่อเพิ่มจำนวนของเซลล์ที่ใช้เพื่อกำจัดเซลล์แปลกปลอมหรือเซลล์ที่ตายแล้ว แต่ก็ต้องใช้ในปริมาณที่พอเหมาะ เพราะการใช้มากเกินไปสารในถั่งเช่าอาจไปกดการทำงานบางอย่างของระบบภูมิคุ้มกันได้

ถั่งเช่า สรรพคุณสุดอัศจรรย์

3. ต้านมะเร็ง

          นอกจากเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันแล้ว ถั่งเช่าก็ยังมีฤทธิ์ในการต้านมะเร็ง โดยเจ้าสารคอร์ไดเซปิน (Cordycepin) ที่อยู่ในถั่งเช่าถือเป็นสารที่มีความสำคัญในการต่อต้านการเกิดมะเร็ง ป้องกันการเกิดและการแพร่กระจายของเนื้อร้าย รวมทั้งยังป้องกันไม่ให้ผู้ป่วยโรคมะเร็งที่รักษาหายแล้วกลับมาเป็นซ้ำอีกด้วย

4. ลดไขมันในเลือด

          อีกสรรพคุณหนึ่งที่น่าสนใจไม่แพ้กันก็คงจะเป็นการควบคุมระดับไขมันในเลือด ลดคอเลสเตอรอล และไตรกลีเซอร์ไรด์ ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคภัยอื่น ๆ อย่างเช่น โรคหัวใจและหลอดเลือด นอกจากนี้ก็ยังเพิ่มปริมาณคอเลสเตอรอลชนิดที่ดี ซึ่งจะส่งผลโดยตรงต่อการลดความเสี่ยงโรคหลอดเลือดแดงแข็งได้

5. ฟื้นฟูการทำงานของไต

          สำหรับผู้ป่วยโรคไตเรื้อรัง การรับประทานถั่งเช่าจะช่วยบรรเทาอาการลง และทำให้สุขภาพไตดีขึ้น อีกทั้งยังลดความเสียหายของไตที่เกิดจากสารพิษตกค้างได้ค่ะ

6. เสริมสร้างการทำงานของตับ

          สารพิษเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ตับถูกทำลาย การกินถั่งเช่าเป็นอาหารเสริมจะช่วยลดผลกระทบจากสารพิษ และป้องกันการเกิดพังพืดในตับ ขณะที่สารต้านอนุมูลอิสระก็ยังเข้าไปเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคไวรัสตับอักเสบได้ด้วย

7. บำรุงโลหิต

          นอกจากจะบำรุงตับ ไต รวมทั้งหัวใจแล้ว สารที่อยู่ในถั่งเช่าก็ยังช่วยเสริมสร้างการทำงานของระบบโลหิต ทำให้ร่างกายสร้างไขกระดูกมากขึ้นซึ่งทำให้เซลล์เม็ดเลือดแดงและเซลล์เม็ดเลือดขาวถูกสร้างในปริมาณที่เพียงพอต่อร่างกาย

8. ลดระดับน้ำตาลในเลือด 

          สำหรับผู้ป่วยเบาหวาน ถั่งเช่าถือเป็นสมุนไพรอีกชนิดที่ช่วยลดน้ำตาลได้ โดยมีการศึกษาพบว่า การรับประทานถั่งเช่าวันละ 3 กรัม จะช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ถึง 95% ซึ่งมากกว่าการใช้ยาแผนปัจจุบันที่ควบคุมได้เพียงแค่ 54% 

ถั่งเช่า สรรพคุณสุดอัศจรรย์

 ถั่งเช่า รักษาอาการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศได้จริงหรือ ?

          เชื่อว่าคนจำนวนไม่น้อยรู้จักถั่งเช่าเพราะสรรพคุณที่ช่วยในการเสริมสร้างสมรรถภาพทางเพศ แต่ยังไม่แน่ใจว่าจริงหรือเปล่า ขอบอกตรงนี้เลยค่ะว่าถั่งเช่าช่วยได้แน่นอน เพราะถั่งเช่าสามารถช่วยเพิ่มปริมาณของสเปิร์มในอสุจิได้ โดยจากการศึกษาในผู้ชาย 22 คนพบว่าเมื่อใช้ถั่งเช่าเป็นอาหารเสริมแล้ว ปริมาณของสเปิร์มในอสุจิเพิ่มขึ้น 33% อีกทั้งยังลดปริมาณสเปิร์มที่มีความผิดปกติลงได้ถึง 29%

          และเมื่อศึกษาเพิ่มเติมก็พบว่าถั่งเช่าสามารถช่วยเพิ่มความต้องการทางเพศได้ 66-86% อีกทั้งยังมีคุณสมบัติในการปกป้องและเสริมสร้างการทำงานของต่อมหมวกไต และเพิ่มโอกาสที่สเปิร์มจะปฏิสนธิได้ 300% แต่ทั้งนี้ก็ต้องระมัดระวังในการใช้สักหน่อย โดยควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญก่อนนำมาใช้รักษาอาการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ เพราะอาจเกิดผลข้างเคียงได้ค่ะ

 ข้อควรระวังในการใช้ถั่งเช่า

          เดี๋ยวนี้หาทานถั่งเช่าได้ง่ายขึ้น เพราะมีการผลิตถั่งเช่าสกัดแบบแคปซูลออกมา แต่แม้ว่าถั่งเช่าจะมีสรรพคุณในการดูแลสุขภาพและบรรเทาอาการเจ็บป่วย ก็ยังมีสิ่งที่ควรระมัดระวังในการรับประทานถั่งเช่าอยู่ไม่น้อย โดยเฉพาะผู้ป่วยโรคเบาหวาน การรับประทานถั่งเช่าสามารถลดน้ำตาลในเลือดได้ แต่ถ้าหากใช้ควบคู่ไปกับยาลดน้ำตาลอาจจะทำให้น้ำตาลในเลือดต่ำจนเป็นอันตรายได้เช่นกัน ผู้ที่ใช้ยากลุ่มป้องกันการเกาะกลุ่มของเกล็ดเลือด และผู้ที่ใช้ยากดภูมิคุ้มกันก็ไม่ควรรับประทาน เพราะถั่งเช่ามีฤทธิ์ต้านการเกาะกลุ่มของเกล็ดเลือด และกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน หากใช้แล้วอาจจะเกิดอันตรายได้ 

          ได้รู้จักถั่งเช่ากันมากขึ้นแล้ว เชื่อว่าหลายคนก็อยากจะนำมาใช้บำรุงสุขภาพ แต่ก็อย่าลืมนะคะว่าสมุนไพรชนิดนี้มีราคาแพงมาก และอาจจะส่งผลข้างเคียงได้กับคนบางกลุ่ม ฉะนั้นถ้าอยากให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญก่อนดีกว่านะคะ


ขอขอบคุณข้อมูลจาก
สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ
คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
chineseherbshealing.com 





http://health.kapook.com/view11023.html

Read More...

สูตรดอง"ไข่แดงเค็ม (จากไข่ไก่)" เอาไว้ใส่ไส้ขนมเปี๊ยะ หรือ ซาลาเปา..เทคนิคให้ไข่แดงสีสวย!!!มาทำกัน



ส่วนผสม

1.ไข่ไก่(พันธ์เปลือกขาว) 10-15 ฟอง
2.น้ำสะอาด เกือบลิตร
3.เกลือเม็ด 2 1/2 หรือ 3 แก้วกาแฟ(ขนาดกลาง)
4.เหล้าขาว 1 ฝา ( ถ้าไม่มีใช้วอทก้า แต่วันนี้ใช้เหล้าสาเกค่ะ เพราะหาไม่ได้ทั้งสองอย่าง)
5.ภาชนะสำหรับดอง (ใช้โถแก้วหรือพลาสติก)
6.ถุงพลาสติก, ยางรัด

 วิธีทำ

- น้ำ+เกลือ ต้มจนเกลือละลายจนหมด พักไว้ คลายร้อน
-เช็ดเปลือกไข่ให้สะอาด
-เรียงไข่ใส่โถ เทเหล้าลงไป ตามด้วยน้ำเกลือ
-ถุงพลาสติกใส่น้ำมัดปากให้แน่น วางทับไปในโถกันไม่ให้ไข่ลอยพ้นน้ำ
-ดอง 25 วัน ครบกำหนด
-ตอกไข่(ดิบ) แยกไข่ขาว กับไข่แดงออกจากกัน (ไข่แดงจะเป็นก้อนค่ะ)
-ผึ่งลมให้แห้ง เก็บใส่กล่อง ถุง เข้าตู้เย็นไว้ เวลาจะทำขนมค่อยเอามานึ่ง หรือ อบ ค่ะ



today thai news



Read More...

สูตรทำ"แหนม"ทำทานเองหรือจำหน่าย มี 2 สูตร สร้างรายได้...


สูตรที่ 1


     - เนื้อหมู 1 กิโลกรัม
     - หนังหมู 30 กรัม
     - ข้าวเหนียวสุก 100 กรัม
     - กระเทียม 100 กรัม
     - เกลือ 20 กรัม
     - เกลือไนเตรท ไนไตรท์ (ผงเพรก) 0.5 กรัม



สูตรที่ 2

     - เนื้อหมู 12 กิโลกรัม
      - หนังหมู 7 กิโลกรัม
     - เกลือ 400 กรัม
     - เกลือไนเตรท ไนไตรท์ (ผงเพรก) 40 กรัม
     - รีกัลเบส 40 กรัม
     - น้ำตาลทราย 40 กรัม
     - กระเทียม 800 กรัม
     - ข้าวเหนียวสุกหรือข้าวสวย 500 กรัม
     - พริกขี้หนูสวน 500 กรัม


วิธีทำ

 นำเนื้อบดแล้วผสมเครื่องปรุง คือ เกลือ ข้างสุก รีกัลเบส โซเดียมไนเตรท ไนไตรท์ น้ำตาลทราย กระเทียมตามสูตร นวดจนเหนียวหรือเป็นก้อนไม่ติดมือ แล้วเติมหนังหมู และนวดต่อให้ เข้ากัน สำหรับแหนมบางชนิดมีการเติมพริกขี้หนูเพื่อให้มีรสเผ็ด

แหนมเมื่อนวดได้ที่แล้วนำไปปั้นเป็นก้อน ห่อด้วยพลาสติกหรือห่อด้วยใบตองกล้วยสด มัดให้ แน่นด้วยยาง เชือก หรือตอก (ถ้าใช้ใบตองกล้วยสด) เพื่อไล่อากาศภายใน



Read More...

แป้งพาย" พายสัปปะรด" สูตรนี้ทำได้ 15 ถ้วย แต่งสานหน้า 9 ถ้วยนะคะ สวยงามตามท้องเรื่อง!!!


ส่วนผสม

แป้งอเนก 1 1/2. ถ้วย.
แป้งบัวแดง 1/2 ถ้วย
ผงฟู 1 ชช.
เกลือ 1/4 ชช.
น้ำตาล 1 1/2. ชต.
เนยสด. 90. กรัม(แข็งโป๊กนะคะห้ามนิ่ม)
น้ำเย็นเจี๊ยบ 1/4 ถ้วย


วิธีทำ

1.ร่อนของแห้งรวมกัน แต่น้ำตาลใส่ทีหลัง
2. ใช้เนยที่เย็นจัด หั่นเต๋า เล็กๆใส่ลงไปในแป้ง
3. ใช้สองมือกอบแป้งพร้อมก้อนเนยถูมือไปมาเพื่อให้เนยกับแป้งเกาะกันจนเป็นเม็ดทรายหยาบ
4. พรมน้ำเย็นทีละน้อย ค่อยๆผสมให้เข้ากันอย่างเบามือ. พักแป้งในตู้เย็น 1 ชม.ปิดให้มิดชิด


ไส้สัปปะรด

 สูตรนี้เป็นกลางๆต้องปรับสูตรตามสัปปะรดที่ฉ่ำน้ำไม่เท่ากันและเปรี้ยวหวานไม่เท่ากัน ควรใช้การชิมเป็นหลัก
และเป็นสูตรที่เน้นเนื้อไม่เน้นน้ำ



ทำไส้สัปปะรด

สัปประรดสับเล็กๆ 200 กรัม( ควรใช้การชิมเป็นหลัก และเป็นสูตรที่เน้นเนื้อไม่เน้นน้ำ จึงไม่ใส่น้ำเปล่า)
นม 1/4 ถ้วย
น้ำตาล 3-4 ชต.แล้วแต่สัปปะรด(เปรี้ยวหวานไม่เท่ากัน ชิมก่อน หวานมากลดน้ำตาลลงได้ค่ะ)
เกลือ 1/4 ชช.
แป้งข้าวโพด. 1. ชต.
เนยสด 1 ชต.


วิธีทำ

 1. เคี่ยวสัปปะรดกับน้ำตาลให้นิ่ม คอยคนไฟอย่าแรง ถ้าแห้งไปเติมน้ำได้ทีละน้อย
2. ใส่เกลือกับเนย คนให้เข้ากันแล้วชิม ไม่ควรมีน้ำเจิ่งนะคะ ควรจะค่อนข้างแห้ง
3. ละลายแป้งข้าวโพดกับนมแล้วค่อยๆเทลงไปตอนสัปปะรดยังเดือดอยู่. คนเร็วๆไม่ให้เป็นก้อน
เสร็จค่ะ พักไว้ให้เย็น


ประกอบร่าง

1.นำแป้งออกมาคลึงให้เปนแผ่นบางๆ ใช้แป้งนวลด้วย
2.กรุแป้งในพิมพ์ให้ขอบสูงประมาณ 3/4นิ้ว ใช้ซ่อมจิ้มๆที่พื้นกันแป้งฟู
3. อบไฟ 200 ให้พอสุก (ต้องวอร์มเตาไว้ก่อน)ไม่ต้องเกรียม พักไว้ให้เย็น
4.ใส่ไส้ และ คลึงแป้งเป็นแผ่น ตัดเป็นเส้นแล้วสานตามรูป หรือจะปิดหมดก้อได้ แต่ให้กดริมแป้งให้เชื่อมกับฐานด้วย
5.ตีไข่ 1 ฟอง แล้วใช้แปรงทาหน้าพายเพื่อให้สีสวยเมื่ออบเสร็จ
6. อบไฟ 200 จนได้สีที่ชอ


today thai news
Read More...

บุฟเฟต์ปิ้งย่าง ซีฟู้ดเน้นๆ ชีสไม่อั้น ไม่จำกัดเวลา!!


 สวัสดีค่ะ

วันนี้เราจะพาไปชิมบุฟเฟต์ปิ้งย่างในย่านลาดพร้าวกันบ้าง^^ ร้านนี้มีชื่อว่า “สิงโตทะเล” ตั้งอยู่ในซอยลาดพร้าว 101 จุดเด่นของที่นี่คือ เป็นบุฟเฟต์ซีฟูดปิ้งย่างที่ไม่จำกัดเวลา จ่ายเพียงคนละ 399 บาทถ้วนๆ ก็นั่งทานกันได้ยาวๆ หรือพิเศษสำหรับสาวกชีส บวกเพิ่มอีกแค่ 99 บาทก็สามารถสั่งชีสได้ไม่อั้น ไม่มีจำกัดเวลาเช่นกันกันค่ะ

อย่ารอช้า เรามาเริ่มกันเลยดีกว่า^^
ขึ้นชื่อว่าร้านบุฟเฟต์อาหารทะเล ก็ขนกันมาทั้งทะเลจริงๆ ไม่ว่าจเป็นกุ้ง หอย ปู ปลา กั้ง ปลาหมึก สารพัดสายพันธุ์







http://travel.sanook.com/blog/

Read More...

“มาม่าต้มยำชีสไข่มะตูม” ร้าน “ตำกะเตี๋ยว” ร้านอร่อยเด็ด..ย่านพหลโยธิน



 วันนี้ทีมงาน Paapaii จะพาไปตระเวนตามหาร้านอาหารอร่อย ๆ กันเช่นเคย  ซึ่งวันนี้เป็นคิวของร้าน“ตำกะเตี๋ยว” ร้านอาหารริมทางพหลโยธินที่ขอรับประกันความอร่อย ว่าแล้วก็ตามไปชิมกันได้เลย!!!



“ตำกะเตี๋ยว” เป็นร้านที่ตั้งอยู่ริมถนนพหลโยธินบริเวณปากซอยหมู่บ้านสุขสันต์ซอย 53 เลยปากซอยมาเพียง 10 เมตรตรงข้ามกองพลทหารราบที่ 11 ตัวร้านตั้งอยู่ริมถนนเลยครับมองหาไม่ยาก!!

 บรรยากาศภายในร้าน “ตำกะเตี๋ยว”ตกแต่งเรียบง่ายแต่ดูดีมีสไตล์แบ่งออกเป็นสองชั้น เฟอร์นิเจอร์ที่ใช้นั้นใช้ไม้เป็นหลัก ส่วนตามกำแพงก็เป็นลักษณะตกแต่งโทนสีเทาดำเน้นปูนเปลือยดูแล้วสบายตา



ระหว่างทางขึ้นชั้นบน ร้านเค้ามี Post-it ให้ลูกค้าได้เขียนกันด้วย

บรรยากาศบริเวณชั้น2 โปร่ง โล่ง เย็นสบายทำให้นั่งทานอาหารชิล ๆ  มองออกไปเห็นถนนข้างนอก วันนี้คนไม่เยอะครับ แถมมี Post-it แปะตามกำแพงไปทั่วน่ารักดี ระหว่างรออาหารก็นั่งงานเพลิน ๆ เหมือนกันครับ



ที่ร้านเค้ามี Wi-Fi ให้ได้เล่นฟรีกันด้วย



มาดูส่วนของเมนูอาหารของทางร้านกันบ้างเมนูแบ่งเป็น 2 เล่มเป็นของน้ำรวมกับของหวานและอีกเมนูเป็นอาหารคาว เมนูอาหารหลัก ๆ ของร้านเป็นส้มตำและก๋วยเตี๋ยว และอื่น ๆ หลากหลายเมนูตอบสนองความต้องการที่แตกต่างของลูกค้าได้เป็นอย่างดี



สำหรับวันนี้ขอรีวิวแบบเบา ๆ กับอาหารจำพวกก๋วยเตี๋ยวกันครับ เริ่มกันที่เมนูซิกเนเจอร์ประจำร้านที่พลาดไม่ได้อย่าง“หมี่วุ้นต้มยำแห้งไข่มะตูม” แต่สำหรับมื้อนี้ผมขอเปลี่ยนเส้นมาเป็น เส้นมาม่ายำแห้งไข่มะตูม แทนครับรู้สึกว่ามันเข้ากันมากกว่า ชามนี้เค้าเสิร์ฟมาพร้อมน้ำซุปรสชาติกลมกล่อม

ชามนี้ประกอบไปด้วยเครื่องอย่าง หมูสับ, หมูชิ้น, เกี๊ยวกรอบ และไข่มะตูม ราดมาด้วย “ซอสซุปเปอร์” ซึ่งเป็นซอสต้มยำสูตรเฉพาะของทางร้าน


http://travel.sanook.com/


Read More...

ดึงนักลงทุนจีนทุ่ม5พันล้านลุยธุรกิจอสังหา ยึดหัวหาดเปิดคลับหรู3เมืองท่องเที่ยวพัทยา-ภูเก็ต-เชียงใหม่


สภาวัฒนธรรมไทย-จีนดึงนักธุรกิจจีน 44 คนลุยลงทุนประเทศไทย จับมือเจ้าของร้านอาหารชื่อดัง "สุดทางรัก" ทุ่ม 5 พันล้าน เปิดบ้านพักสโมสรบริการเศรษฐีจีน เก็บค่าสมาชิก 5 แสนบาท/คน ปักหมุด 3 เมืองท่องเที่ยวหลัก "พัทยา-ภูเก็ต-เชียงใหม่" ปั้นแบรนด์ "888 วิลลาส" หัวหอก ดึงจีนมาท่องเที่ยว-ต่อยอดธุรกิจ

นายพินิจ จารุสมบัติ ประธานสภาวัฒนธรรมไทย-จีน เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ได้นำนักธุรกิจจีนและคณะในสมาคมนักธุรกิจยอดเยี่ยมเชื้อสายจีนทั่วโลก (The World Eminence Chinese Business Association หรือ WECBA) จำนวน 44 คนมาเยี่ยมชมหัวเมืองท่องเที่ยวของไทยใน 3 จังหวัด คือ เมืองพัทยา จ.ชลบุรี จ.ภูเก็ต และ จ.เชียงใหม่

มีจุดประสงค์เพื่อเจรจาร่วมทุนกันระหว่างฝ่ายจีน คือ บริษัท ทูจอย แฮปปิเนส อินเตอร์เนชั่นแนล อินเวสเมนท์ กรุ๊ป จำกัด, บริษัท หวงซาน แฮปปี้ นิว เวิลด์ จำกัด และบริษัท เอฟที (เซี่ยงไฮ้) อินดัสเทรียล จำกัด และฝ่ายไทย คือ บริษัท สุดทางรักกรุ๊ปเพื่อลงทุนก่อสร้างโครงการ "บ้านหลังที่ 2" เป็นการบริการท่องเที่ยว มีการพัฒนาที่พักอาศัยจัดเป็นลักษณะสโมสรส่วนตัวสำหรับสมาชิก และจะเปิดรับสมาชิกเฉพาะนักธุรกิจชาวจีนระดับพรีเมี่ยมเพื่อเข้ามาพักผ่อน เน้นการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม สุขภาพ ศาสนา และติดต่อเจรจาธุรกิจ

"เราหวังว่าโครงการนี้จะเพิ่มคุณภาพนักท่องเที่ยวที่เข้ามาในไทยมากขึ้น เพราะนักท่องเที่ยวสมาชิกสโมสรนี้เป็นลูกค้าระดับบน คาดว่าจะมีการใช้จ่ายหลักแสนบาทต่อคนต่อครั้ง ซึ่งลูกค้าระดับนี้ปัจจุบันยังมีน้อยไม่ถึง 10% ของนักท่องเที่ยวจีนทั้งหมด เป็นการนำกำลังซื้อเข้ามาหมุนเวียนเศรษฐกิจภายในประเทศ และอาจต่อยอดให้นักธุรกิจจีนพบช่องทางลงทุนอื่น ๆ เพิ่มเติมได้อีก" นายพินิจกล่าว

เลือกไทยเป็นบ้านหลังที่ 2

นายหลู จุ้น ชิง ประธานกรรมการ บริษัท ทูจอย แฮปปิเนส อินเตอร์เนชั่นแนล อินเวสเมนท์ กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า โครงการบ้านหลังที่ 2 จะเป็นการสร้างบริการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและสุขภาพ และการให้คำปรึกษาความร่วมมือทางธุรกิจในไทย

เหตุที่ตัดสินใจเลือกประเทศไทย คือ 1.ไทยเป็นเมืองท่องเที่ยวและที่ตั้งอยู่ใกล้ประเทศจีน เดินทางสะดวก 2.นับถือศาสนาพุทธเป็นศาสนาหลัก วัฒนธรรมใกล้เคียงกัน 3.การให้บริการของไทยเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก ทั้งโรงแรม ร้านอาหาร และอื่น ๆ

ทั้งนี้ ทูจอยเป็นบริษัทให้คำปรึกษาและเชื่อมโยงการเจรจาธุรกิจแก่บริษัทหรือองค์กรต่าง ๆ ในประเทศจีน และคาดว่าจะเริ่มจัดตั้งบริษัททูจอยในประเทศไทย เพื่อดำเนินธุรกิจลักษณะเดียวกันด้วย

ลงทุนห้องพัก 900 ห้อง

ด้านนายซุน เทียน ฉวุง ประธานกรรมการ บริษัท หวงซาน แฮปปี้ นิว เวิลด์ จำกัด กล่าวว่า รูปแบบธุรกิจของโครงการบ้านหลังที่ 2 จะเป็นการพัฒนาสโมสร โดยสร้างบ้านพักอาศัยขึ้นมาใน 3 เมืองหลัก คือ พัทยา ภูเก็ต เชียงใหม่ จัดเป็นลักษณะสโมสรเฉพาะสำหรับสมาชิกสามารถเข้าพักได้ มีมูลค่าการลงทุนพัฒนาอสังหาริมทรัพย์รวม 5,000 ล้านบาท

ขณะนี้เริ่มก่อสร้างแห่งแรกแล้วที่โครงการ "888 วิลลาส พัทยาใต้" เป็นทาวน์เฮาส์ระดับลักเซอรี่ใน ซ.พัทยาใต้ 16 จำนวน 72 ยูนิต รวมมี 292 ห้อง คาดว่าจะรองรับผู้เข้าพักได้ 5,800 คน ใน 1 ปี ส่วนที่ภูเก็ตและเชียงใหม่ยังอยู่ระหว่างศึกษาทำเลและจัดซื้อที่ดิน คาดว่าจะก่อสร้างที่พักอาศัยเพื่อรองรับผู้เข้าพักได้จำนวนใกล้เคียงกัน ในเบื้องต้นประมาณ 88 ยูนิต/แห่ง รวมทั้ง 3 โครงการ อยู่ที่ประมาณ 900 ห้อง แต่รูปแบบดีไซน์อาจจะแตกต่างออกไป เพื่อให้เข้ากับลักษณะพื้นที่

ตั้งเป้าสมาชิก 1.6 หมื่นคน

นายซุนกล่าวว่า ตั้งเป้ามีสมาชิกโครงการบ้านหลังที่ 2 จำนวน 1.6 หมื่นราย ภายใน 3 ปี เชื่อว่าจะได้รับความสนใจจากชาวจีนจำนวนมาก เพราะเมืองไทยเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่คนจีนนิยมและมีการบริการดี และแฮปปี้ นิว เวิลด์ เองดำเนินกิจการโรงแรมและสโมสรอยู่แล้วในจีน มีฐานลูกค้าสมาชิกกว่า 2.9 แสนคนที่สามารถเสนอขายแพ็กเกจเพื่อเป็นสมาชิกสโมสรนี้ได้

โดยเบื้องต้นค่าสมาชิกตลอดชีพแบ่งเป็น 3 กลุ่ม คือ กลุ่มที่ 1 เจ้าของกิจการและผู้บริหารระดับสูง 5 แสนบาทต่อคน กลุ่มที่ 2 ครอบครัวของกลุ่มที่ 1 ราคา 2.5 แสนบาทต่อคน และกลุ่มที่ 3 พนักงานเจ้าหน้าที่ในบริษัทของกลุ่มที่ 1 ราคา 1.5 แสนบาทต่อคน ลูกค้าสามารถเข้าพักที่สโมสรได้สูงสุด 24 วันต่อปี โดยเลือกพักได้ทั้ง 3 แห่ง และหลังจากนั้นจะมีการคิดค่าบริการรายปีเพิ่มเติม

"ในประเทศจีนมีการจัดสโมสรแบบนี้จำนวนมาก แต่ที่ไทยคาดว่าเราจะเป็นสโมสรแห่งแรกที่ตั้งขึ้นเพื่อชาวจีนโดยเฉพาะ มีการให้บริการต่าง ๆ เช่น รถรับ-ส่งจากสนามบินและท่องเที่ยว จัดงานสัมมนา งานเลี้ยงต้อนรับ" นายซุนกล่าวและว่า

คาดว่าจะสามารถเริ่มรับสมัครสมาชิกได้ตั้งแต่ครึ่งปีหลัง 2559 และเริ่มบริการได้เมื่อโครงการ 888 วิลลาส พัทยาใต้ สร้างเสร็จภายในต้นปี 2560 นี้



พาชม "888 วิลลาส" สโมสรบ้านหลังที่ 2 ชาวจีน

"โครงการ 888 วิลลาส พัทยาใต้" เดิมพัฒนาเป็นทาวน์เฮาส์เพื่อขาย โดย "คุณแดง-บัณฑิต ศิริตันหยง" ประธานกรรมการบริหาร บริษัท สุดทางรักกรุ๊ป จำกัด หรือที่รู้จักกันในนามเจ้าของร้านอาหาร "สุดทางรัก" สุดโด่งดัง ที่ผันตัวเองมาเป็นนักพัฒนาที่ดิน

โดยโครงการมูลค่า 1,600 ล้านบาท พัฒนาที่ดิน 12 ไร่ ในซอยพัทยาใต้ 16 เป็นทาวน์เฮาส์ 3-4 ชั้น จำนวน 72 ยูนิต ตกแต่งแบบโมเดิร์น คอนเทมโพรารี่ เริ่มตอกเข็มก่อสร้างเมื่อเดือน มี.ค.ปีที่แล้ว กำหนดแล้วเสร็จเดือน มิ.ย. 2560

ภายในโครงการมีทาวน์เฮาส์ 3 ชั้น จำนวน 28 หลัง หน้ากว้าง 7.5 เมตร ขนาด 36 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 300 ตร.ม. มี 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ และที่จอดรถ 2 คัน ส่วนแบบ 4 ชั้น มีจำนวน 45 หลัง ขนาดที่ดินและหน้ากว้างเท่ากัน แต่พื้นที่ใช้สอยเพิ่มเป็น 400 ตร.ม. ฟังก์ชั่น 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ ที่จอดรถ 2 คัน และเพิ่มลิฟต์ 1 ตัว

ไฮไลต์คือเป็นทาวน์เฮาส์อีโค บ้านทุกหลังจะติดแผงโซลาร์เซลล์บนหลังคา เพื่อเป็นการประหยัดพลังงาน และมีระบบบำบัดน้ำเสีย เพื่อนำกลับมาใช้ในการรดน้ำต้นไม้

อย่างไรก็ตาม "บัณฑิต" บอกว่า เนื่องจากตัดสินใจร่วมทุนกับนักลงทุนจีน คือ กลุ่มสมาคม WECBA จึงเปลี่ยนคอนเซ็ปต์โครงการเป็นสโมสรบ้านหลังที่ 2 ที่เจาะกลุ่มลูกค้าจีนเป็นหลัก

"ที่ตัดสินใจแบบนี้เพื่อลดความเสี่ยงการทำธุรกิจ ทางพาร์ตเนอร์ชาวจีนมีฐานลูกค้าอยู่แล้ว โดยเราไม่ต้องทำการตลาดมากเท่าการขายขาด และยังต่อยอดคอนเซ็ปต์ไปพัฒนาที่เมืองอื่น ๆ ได้" บัณฑิตกล่าวย้ำและว่า

การปรับเปลี่ยนโครงการอสังหาฯขายขาดมาเป็นสโมสรนั้นไม่ยุ่งยาก ปรับแบบเฉพาะบริเวณคลับเฮาส์ให้ตอบรับการใช้งานเชิงธุรกิจ เพิ่มห้องประชุมสัมมนา และห้องทำงานออนไลน์เท่านั้น ส่วนแบบทาวน์เฮาส์ทั้งหมดยังคงรูปแบบดีไซน์เดิม

"เชื่อว่าเมื่อเริ่มรับสมัครสมาชิกจะสามารถคืนทุนได้ใน 4 ปี ส่วนยอดขายเดิมที่มีลูกค้าวางเงินดาวน์ไปแล้ว 30% ของโครงการ บริษัทอยู่ระหว่างคืนเงินพร้อมดอกเบี้ย"

/


Read More...

คลังล้มแจกเงินขรก.-คนจน 1 พันบาท เล็งเสนอ ครม.ลงทะเบียนคนจน 19 ล้านคน


เมื่อวันที่ 30 มีนาคม นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยภายหลังประชุมขับเคลื่อน National e-Payment ที่มีนาย นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีเป็นประธานการประชุม ว่า ภายใน 2-3 สัปดาห์นี้ กระทรวงการคลังเตรียมเสนอไปยังคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อลงทะเบียนผู้มีรายได้น้อย ที่มีรายได้ไม่เกิน 300 บาทต่อวัน (8 หมื่นบาทต่อปี) และมีเงินฝากไม่เกิน 3 หมื่นบาท

การลงทะเบียนดังกล่าวทำให้รัฐบาลมีข้อมูลเกี่ยวกับผู้มีรายได้น้อย เพื่อนำมาใช้ออกมาตรการมาช่วยเหลือดูแล ก่อนหน้านี้มีข้อเสนอที่จะให้สิทธิประโยชน์สำหรับผู้มาลงทะเบียนด้วยการให้เงิน 1,000 บาท แต่มองว่าอาจไม่จำเป็นเพราะรัฐจะมีสิทธิประโยชน์อย่างอื่นให้ ถ้าไม่มาลงทะเบียนไม่ได้สิทธิประโยชน์ ดังนั้น หากปีนี้ไม่มาลงทะเบียนปีหน้าสามารถมาลงทะเบียนได้

“การลงทะเบียนผู้มีรายได้น้อยจะให้แบงก์รัฐมาช่วยดำเนินการ และมีการตรวจสอบข้อมูลการลงทะเบียนกับกระทรวงมหาดไทย โดยการลงทะเบียนให้อัพเดตสถานะทุกปี หากในปีนั้นคนที่ลงทะเบียนไว้มีงานทำที่ดีอาจจะไม่ใช่เป็นผู้มีรายได้น้อย ส่วนคนที่ยังลังเลไม่มาลงทะเบียนในปีนี้สามารถไปลงทะเบียนในปีต่อๆ ไปได้ ล่าสุด มีการประเมินกลุ่มคนมีรายได้น้อยไว้ที่ประมาณ 19 ล้านคน การลงทะเบียนคาดว่าจะเริ่มในอีก 1-2 เดือน หรือในช่วงเดือนกรกฎาคมนี้” นายอภิศักดิ์กล่าว และว่า

ในเดือนเมษายนนี้ ทางกระทรวงการคลังเริ่มโครงการด้านการประชาสัมพันธ์ในระบบอีเพย์เมนต์ เพื่อให้ความรู้แก่ประชาชน ให้ทราบถึงสิทธิประโยชน์ที่จะได้รับหากเข้ามาในระบบนี้ และผู้ที่ใช้อีเพย์เมนต์จะเสียภาษีถูกกว่าปกติ ขณะนี้กำลังสรุปในเรื่องสิทธิประโยชน์ และภาษีที่ลดให้ว่าเป็นเท่าใด

ผู้สื่อข่าวถามว่าถึงการแจกเงินข้าราชการ 1 พันบาท นายอภิศักดิ์กล่าวว่า ยังไม่มี เขียนกันไปเอง


/money.sanook.com/372109/



Read More...

วิธีทำ"หมูปิ้งนมสด" สูตรดังขายไม้ละ10บาท อาชีพสร้างรายได้





ส่วนประกอบวัตถุดิบในการทำหมูปิ้ง

 เนื้อหมู 5 กิโลกรัม
 สันคอ 5 กิโล กรัม
 มันหมูแข็ง 100 กรัม
 สับปะรดเล็ก 1 ลูก สับหยาบ
 นมสดรสจืด 250 มิลลิลิตร 1 กล่อง
 ผงฟู 1 ช้อนโต้ะปาด
 น้ำตาลปีบ 1 ก้อนใหญ่ ชอบหวานมากน้อย กะตามปริมาณ
 น้ำปลา 4 ช้อนโต๊ะ
 รากผักชี  สับละเอียด 12 ราก
 กระเทียมไทยสับละเอียดจนเกือบเละ 20 เม็ด
 กระเทียมไทยสับพอหยาบเห็นกระเทียม 5 เม็ด
 พริกไทยป่น 2 ช้อนโต้ะ

วิธีทำหมูปิ้งนมสด

 ล้างหมูให้สะอาด เพื่อล้างมันและเลือดออกไปเพื่อไม่ให้มีกลิ่นคาว
 นำกระดาษมาซับหมูให้แห้งเล็กน้อย

จากนั้นนำหมูมาหั่นเป็นชิ้นใหญ่ๆ ถ้าชิ้นเล็กไปหมูจะเละเวลาเสียบไม้
 นำหมูมาหมักกับสับปะรดที่สับหยาบ หมักด้วยการแช่ตู้เย็นไว้ 2-3 ชม.

จากนั้นก็มาทำน้ำซอส ด้วยการละลายน้ำตาลและน้ำปลา จนเข้ากันดี ใส่กระเทียมสับละเอียด รากผักชีสับละเอียด
 (ขั้นตอนนี้เราจะเหลือกระเทียมหยาบ และพริกไทยไว้ใช้ทีหลังด้วย)
 เมื่อครบเวลาหมักหมู ก็ให้นำสับปะรดออก เทน้ำสับปะรดทิ้งไป เพื่อหยุดกระบวนการทำให้หมูนุ่ม

จากนั้นหั่นหมูเป็นชิ้น ตามขนาดเท่ากับที่เราเคยซื้อรับประทาน
 ต่อด้วยการนำมันหมูไปเจียวในกระทะให้แข็งพอสุกนิดหน่อยแค่พอเปลี่ยนสีแล้วนำขึ้นมาพักไว้
 จากนั้นเทนมใส่ลงไป ทีละน้อย แล้วคนไปด้วย จนนมหมดกล่อง
 ผงฟูใส่ลงไปแล้วคนให้เข้ากัน ห้ามให้ผงฟูเป็นก้อนเด็ดขาด

จากนั้นใส่ซอสที่เราปรุงไว้ คนให้เข้ากัน

จากนั้นใส่กระเทียมหยาบ พริกไทย คนให้เข้ากัน
 เสร็จแล้วนำไม้มาเสียบเนื้อหมูชิ้นนึง มันแข็งชิ้นนึง แล้วเนื้อหมูอีกชิ้น สลับกัน

จากนั้นนำไปแช่ตู้เย็นเอาไว้ สัก 8 ชม. รอเวลานำมาย่าง

 สำหรับท่านใดที่กำลังมองหาอาชีพอยู่ หรือต้องการลาออกจากงานประจำ แล้วหันมาเป็นนายตัวเอง ผมว่าอาชีพขายหมูปิ้งนมสดก็เป็นอีกหนึ่งอาชีพที่น่าสนใจมากๆ เลยนะครับ ซึ่งท่านอาจะลองเปิดขายตามชุมชน หรือบริเวณหน้าโรงเรียนตอนเช้าๆ ทำเป็นอาชีพเสริมได้ หลังจากนั้นเวลาที่เหลือก็หาอะไรทำเพิ่ม เราอย่าพึ่งหวังรวยครับ ขอแค่ลงมือทำทุกอย่างเป็นไปได้เสมอ

เคล็ดลับ... ถ้าจะขายเช้าให้หมักหมูทิ้งไว้ตอนเย็น ถ้าจะขายเย็นให้หมักหมูทิ้งไว้ตอนเช้า น้ำมันเจียวที่ได้จากมันหมู เอาไว้ทาหน้าหมูย่างแทนกะทิ มีอีกหนึ่งข้อที่เจ้าของสูตรบอกเอาไว้ว่าการหมัก ไม่ควรหมักนานเกินไปมันจะทำให้หมูจะนุ่มจนเละและไม่อร่อยได้ครับ

------------------------------------------------------------------------------------------------------
เครดิต ข้อมูลสูตรอาหารโดยเว็บสยามอาชีพดอจคอม http://www.siamarcheep.com/%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%98%E0%B…
 ขอบคุณข้อมูลจาก : คุณ “สมาชิกหมายเลข 1871558“ “สมาชิกเว็บไซต์พันทิป
 เครดิตภาพเว็บพันทิปคุณNinG-NooN http://pantip.com/topic/30703533

เรียบเรียงโดย คุณ Chomphoonut Panomai




Read More...

แจกสูตร"น้ำจิ้มลูกชิ้น"รสเด็ด สูตรมะขามเปียก+น้ำกระเทียมดอง ทำขายอร่อย ลูกค้าติดใจ...




"separator" style="clear: both; text-align: center;">
ส่วนผสม

1.น้ำตาลปี๊บ,น้ำตาลทราย อย่างละครึ่งโล
2.กระเทียม 2 ขีด
3 มะเขือเทศ 1 โล
4.มะขามเปียก 1 ขีด
5.เกลือป่น 2 ชช
6.ผักชี 1 กำ
7.รากผักชี 6 ราก
8.ชูรสตามชอบค่ะ
9.น้ำเปล่า 500 ซีซี
10.แป้งมัน 3 ช้อน
11.พริกแห้ง 10 เม็ด
12.พริกขี้หนูแดง 10เม็ด
13.กระเทียมดอง 1 ถ้วย

วิธีทำ

1.นำน้ำกระเทียมดองและน้ำเปล่าผสมกันเพื่อไว้เติมตอนปั่นส่วนผสม




2.มะขามเปียกแช่น้ำทิ้งไว้สุกครู่ให้เปื่อยจะปั่นง่าย

3.ปั่นทุกอย่างที่เตรียมไว้ผสมกันได้เลยยกเว้นผักชี และแป้งมัน

4.พริกแห้งก็แช่น้ำทิ้งไว้ก่อนนำมาปั่น

5.เมื่อปั่นทุกอย่างรวมกันได้ทั้งหมดตั้งไฟกวนไปมาเพราะเดียวไหม้...อย่าลืมใส่น้ำตาลนะคะ

6.พอได้ที่ละลายแป้งมันกับน้ำค่อยๆเทลงไปและกวนให้เร็วๆเพราะแป้งจะไม่ละลายเดี๋ยวออกมาไม่สวยค่ะ

7.กวนจนเดือดสักพักยกลงพอหายเย็นนิดนึงก็หั่นผักชีใส่ลงไป

......เสร็จแล้วค่ะ...ปริมาณที่ได้เยอะมากพอสมควรเก็บใส่ตู้เย็นอยู่ได้เป็นเดือนค่




Read More...

เช้านี้ทำ"ข้าวหมกไก่"ข้าวร้อนๆไก่นุ่มๆ (1 หม้อ อิ่มกันทั้งครอบครัว) ลงมือทำกันเลย....



 สิ่งที่ต้องเตรียมพร้อม

1.น่องไก่ และสะโพกไก่ 1 kg (หรือส่วนที่เราชอบ)
2.ผงข้าวหมกไก่ โลโบ 2 ซอง
3.โยเกริต์รสธรรมชาติ 1 ถ้วย
4. เกลือ น้ำตาล ครึ่งช้อนโต๊ะ
5.หัวหอม กระเทียม
6.คนอร์ซุปไก่
วิธีทำ

1.ล้างไก่ให้สะอาด คลุกด้วยผงข้าวหมกโลโบ โยเกริต์ เกลือ น้ำตาล ( ไก่ 1 kg) ใช้โลโบ 2 ซองใหญ่ (ปรับได้ตามสัดส่วนที่เราทำกินได้นะค่ะ)





2.หมักไก่ทิ้งไว้ ยิ่งนานยิ่งดีค่ะ อาจจะหมักแช่ตู้เย็น ไว้ค้างคืนก็ได้ แต่ถ้าไม่มีเวลาก็ 30 นาทีค่ะ
3.เจียวกระเทียมและหัวหอมให้กรอบ แล้วนำไก่ที่หมักแล้วมาทอดพอสุก ไม่ต้องให้เกรียมนะค่ะ เพราะเราต้องนำไปอบในหม้อหุงข้าวต่อ
4.นำไก่ออกจากกระทะ แล้วนำข้าวสารที่แช่น้ำเตรียมไว้แล้วไปผัดในกระทะที่ทอดไก่ไว้ ต่อเลย (ใช้น้ำมันที่ทอดเหลือผัดเลยค่ะ) ข้าวสารจะเหลือง
เสร็จแล้วนำข้าวไปหุงตามปกติ(ส่วนนี้ถ้าใครไม่อยากอ้วน แนะนำให้เทน้ำมันที่แยกชั้นในกระทะออกก่อนผัดข้าวนะค่ะ)
5.นำข้าวมาหุง ใส่น้ำน้อยกว่าหุงข้าวปกติเล็กน้อย และใส่ไก่ที่ทอดแล้วลงในหม้อข้าว จัดเรียงตามใจชอบ (ตรงนี้เราเพิ่มความหอมด้วยน้ำซุปคนอร์ใส่ไป 1 ก้อน)
6.กดหุงข้าวปกติ รอข้าวสุก ตักใส่จานแล้วโรยด้วยกระเทียม หอม เจียว
7.น้ำจิ้มไก่เราใช้ของแม่ประนอมค่ะ
เสร็จแล้วค่ะ



today thai news




Read More...

ลูกชิ้นหมูเด้ง" ทำทานเอง อร่อย ปลอดภัยชัวร์ พร้อมแบ่งปันสูตร ง่ายๆ.....


 ส่วนผสม

1. หมูบด(แช่เย็นจัด) 1 กิโลกรัม
2. น้ำเย็นจัด 1 ถ้วย
3. น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
4. น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
5. เกลือป่น 2 ช้อนชา
6. แป้งข้าวโพด 4 ช้อนโต๊ะ
7. พริกไทยขาวป่น 2 ช้อนโต๊ะ
8. น้ำมันพืช 1 ช้อนโต๊ะ
9. ผงฟู 10 กรัม
10. ผงชูรส หรือ รสดี 2 ช้อนชา

‎วิธีทำ

1. ผสมน้ำเย็นจัดกับ น้ำปลา, น้ำตาลทราย, เกลือป่น, แป้งข้าวโพด, พริกไทย, น้ำมันพืช, ผงฟู คนให้เข้ากันเตรียมไว้ค่ะ
2. ใส่เนื้อหมูบดลงในเครื่องปั่นอาหาร แล้วค่อยๆเทส่วนผสมของเหลวเมื่อครู่ที่เตรียมไว้ลงไป ปั่นจนเนื้อเนียนละเอียดเป็นเนื้อเดียวกันค่ะ
3. ตักเนื้อหมูบดใส่ภาชนะปิดด้วยพลาสติกถนอมอาหาร นำเข้าช่องฟิตตู้เย็น 20 นาที (การแช่เย็นก่อนนำไปต้มทำให้ลูกชิ้นเด้งดึ๋งค่ะ)
4. ต้มน้ำในหม้อจนร้อน แต่ไม่ให้เดือดนะคะ(ถ้าน้ำเดือดทำให้ผิวลูกชิ้นไม่เรียบ และมีฟองอากาศข้างในลูกชิ้นค่ะ)
5. บีบลูกชิ้นใส่หม้อ(บีบด้วยมือนะค่ะ) รอลูกชิ้นลอยขึ้นก็ทำการตักขึ้น เอามาลงน้ำเย็นจัดเลยค่ะ (ขั้นตอนนี้สำคัญมากๆนะคะเพื่อให้ลูกชิ้นเด้งค่ะ)
6. แช่ในน้ำเย็น 4 - 5 นาที ก็นำกระชอนมาช้อนลูกชิ้นไปพักให้สะเด็ดน้ำค่ะ จากนั้นพร้อมนำไปรับประทานค่ะ จะปิ้ง ย่าง ทอด ตามสบายเลยจร้า ( ทานไม่หมดเก็บแช่ฟิตไว้ ได้เป็นเดือนนะค่ะ)


today thai news




Read More...

"ชีสเค้กมันม่วง"กลิ่นใบเตยอ่อนๆตัดกับครีมชีส.นุ่ม หอม ที่สุด ....ลองเลยค่ะอร่อยจริงๆ


ส่วนที่1

แครกเกอร์บดละเอียด. 200 กรัม
เนยจืด 100 กรัม

เนยละลายผสมลงไปในแครกเกอร์บดละเอียด ใส่ลงพิมพกดให้แน่นแล้วแช่เย็นสักพักรอเซตตัว


ส่วนที2

ครีมชีสประมาณ. 250 กรัม
น้ำตาลทราย. 120กรัม(ชอบหวานเพิ่มน้ำตาล)
วิปปิ้งครีม. 100 กรัม
มะนาว1-2ลูก
น้ำเปล่า. 4 ช.ต
ผงเจลาติน. 3 1/2 ช.ช

เจลาตินตั้งไฟอ่อนที่สุดพอละลาย
ตีครีมชีสให้เนียนใส่น้ำตาลใส่มะนาวชิมตามใจเลยแล้วใส่วิปครีมตีให้เข้ากัน ใส่เจลาตินคนให้เข้ากันเทใส่ฐานแช่เย็นรอให้เชตตัว


ส่วนที่3

มันม่วง 300-500 กรัมบดละเอียดกับที่หั่นเป้นชิ้นๆเล็กๆ
น้ำตาลทราย. 100 กรัม (ชอบหวานเพิ่มได้ค่ะ)
น้ำเปล่า. 100 กรัม
เจลาติน. 5. ช.ช น้ำเปล่าประมาณ 6 ช.ต. (ตั้งไฟพอละลาย)
วิปปิ้งครีม. 150 กรัม

น้ำเปล่าใส่หม้อตั้งไฟใส่ใบเตย5-6ใบ เทน้ำตาลพอละลายใส่มันม่วงที่บดคนให้เข้ากันสักพักปิดไฟรอเย็น
พอเย็นใส่วิปครีมคนให้เข้ากันใส่มันม่วงที่เป็นชิ้นเล็กๆค่อยๆคนให้เข้ากันเทเจลาตินที่ละลายผสมให้เข้ากันเทลงไปที่ตัวชีสแล้วแช่เย็น ประมาณ 4ชั่วโมงขึ้นไปหรือข้ามวันยิ่งดีค่ะ


คำถาม.มันม่วงก่อนเอาไปบดต้องนึ่งหรือต้มให้สุกก่อนมั้ยค่ะ

ตอบ นึ่งหรือต้มให้สุกก่อนค่ะ


คำถาม.น้ำราดทำยังไงค่ะ

ตอบ โยเกิร์ตค่ะอร่อยไปอีกแบบนึงค่ะ




http://www.startclip.com/news5978.html


Read More...

"เค้กโยเกริ์ต ไขมันต่ำ" แต่งหน้าด้วยสตอเบอรี่สดๆ กินไปฟินไป ไม่อ้วนนด้วยนะ




ส่วนผสม🍓

1. แครกเกอร์บดละเอียด 200 กรัม
2. เนยจืด 70 กรัม
3. นมสด 200 ml
4. โยเกริต์รสธรรมชาติ หรือรสที่ชอบนะคะ 5 ถ้วย
5. เจลาติน 1 1/2 ช้อนโต๊ะ
6. น้ำตาล ตามใจชอบเลยน้าา เรากะเอา ใส่ไปชิมไปจ้าา
6. สตอเบอรี่สด ตามใจชอบเลยจ้าาา


วิธีทำ🍰🍰

ส่วนฐาน

1. ทุบแครกเกอร์ให้ละเอียด (ย้ำว่าละเอียดนะค้าาา ไม่ละเอียดไม่อร่อยน้าาา) เราใช้สากนะคะขั้นตอนนี้ อิอิ 
2. ละลายเนย แล้วผสมลงไปในแครกเกอร์ที่บดละเอียด ผสมให้เข้ากันแล้วอัดลงพิมพ์ทำเค้กได้เลยจ้าา ขนาดที่เราใช้คือ พิมพ์เค้ก 3 ปอนด์ แบบถอดก้นพิมพ์ได้น้าาา เสร็จแล้วพักไว้ในตู้เย็น 30 นาที(ย้ำ อัดฐานให้แน่น นำไปแช่เย็น แต่แคร๊กเกอร์ต้องละเอียดนะค่ะ จะตัดง่ายไม่แตก)


ส่วนชั้นโยเกริต์

1. ผสมนมสดกับเจลาติน คนให้ละลาย แล้วตั้งไฟให้นมอุ่นและเจลาตินเข้ากันดี จากนั้นเติมน้ำตาลขณะที่นมอุ่นๆ แล้วตั้งทิ้งไว้ให้เย็น
2. เทโยเกริต์ลงในชามผสม จากนั้นเทนมผสมเจลาติน ผสมกับโยเกริต์คนให้เข้ากันแล้วเทลงพิมพ์เลยจ้า (ส่วนสีขาวใช้โยเกิตธรรมชาติ ผสมนม กับเจลาติน  โยเกริ์ตแยกเป็นสองส่วน 2 รส โยเกิตธรรมชาติและ โยเกริต์รสสตอเบอรี่ ใส่ทีละชั้น)
3. ตกแต่งหน้าเค้กให้เป็นลายหัวใจหวานแหวว❤❤ ด้วยโยเกริต์รสสตอเบอรี่ โดยเราใช้ช้อนเล็กๆหยดโยเกริต์รสสตอเบอรี่ลงไปจนเต็มหน้าเค้ก จากนั้นใช้ปลายด้ามช้อน ขีดให้เป็นรูปหัวใจ (คล้ายๆที่เค้าเขียนลายบนหน้ากาแฟอ่ะจ้าา) 
4. จากนั้นแช่ตู้เย็นเลยจ้า ซัก 2-3 ชั่วโมง ถอดเค้กออกจากพิมพ์แล้วตกแต่งหน้าเค้กด้วยสตอเบอรี่สดด้านบนเนื้อเค้ก

❤❤ เสร็จละจ้าา เค้กโยเกริต์ทำง่าย แคลต่ำ มาทำให้คนที่เรารักทานกันนะค้าาาาา



today thai news

Read More...

ลงมือทำ "โดนัทจิ๋ว เนื้อบัตเตอร์เค้ก" ห๊อมหอม นุ้มมนุ่ม(สูตรนี้จะได้ประมาณ 35-40 ชิ้นนะคะ)



 ส่วนผสม

แป้งเค้ก 150 กรัม ( แป้งตราพัดโบก)
ผงฟู 2 ชต
เกลือป่น 1/4 ชช
น้ำตาลทราย 1/2 ถต
นมจืด 50 มิลลิกรัม
ไข่ไก่ เบอร์ 0 3 ฟอง
เนยจืดละลาย 1 ชต
กลิ่นวนิลา 1 ชช
น้ำมันพืช 1 ชต

 วิธีทำ

ร่อนแป้งเค้กกับผงฟู พักไว้ ตีไข่ น้ำตาลทราย เกลือ กลิ่นวนิลา ให้ขึ้นฟู เราใช้ตะกร้อมือ แบ่งแป้งสลับใส่กับนม แป้ง นม แป้ง นม แป้ง ค่อยๆ ตะล่อมนะคะ ไม่ต้องตีแรง ใส่น้ำมันพืชกับเนยละลายคนให้เข้ากัน

 วอร์มเตาให้ร้อน หยอดแป้ง เกือบเต็มหลุม ที่เครื่องจะมีไฟบอกค่ะ แต่เราต้องคอยดู แต่ละเครื่องไม่เหมือนกัน พอฟู พลิกกลับด้าน ประมาณ 10 วิ เอาออกจากเตาค่ะ หน้าช๊อค กับ สตอเบอรี่ ใช้ โคชติ้งตราช้าง ค่ะ ตุ๋นให้ละลายแล้วก้ชุบได้เลย แต่งหน้าตามชอบ





today thai news

Read More...

แบ่งปัน สูตร ขนมเปี๊ยะกุหลาบไข่เค็ม "สูตรเนยขาว"


 แป้งชั้นนอก

แป้งเค้ก 240 กรัม
น้ำตาลไอซิ่ง 1 ช้อนโต๊ะ
เนยขาว 70 กรัม
น้ำเย็นจัด 1/2 ถ้วย
เกลือป่น 1/2 ช้อนชา


วิธีทำ

1. ร่อนแป้งเค้ก และเติมน้ำตาลไอซิ่ง พักไว้
2. ละลายเกลือป่น กับน้ำเย็น คนพอเข้ากัน
3. ผสมแป้ง กับเนยขาว และเติมน้ำเย็น นวดจนนุ่มไม่ติดมือ เป็นอันใช้ได้
 ตัดแบ่งแป้งให้เท่าๆกัน คลึงเป็นก้อนกลม พัก 15 นาที


แป้งชั้นใน

แป้งเค้ก 200 กรัม
เนยขาว 100 กรัม


วิธีทำ

1. ร่อนแแป้ง แล้วผสมกับเนยขาว ให้เข้ากัน
2.  ตัดแบ่งแป้งให้เท่าๆกัน คลึงเป็นก้อนกลม พัก 15 นาที



3. นำแป้งนอกมาคลึงให้แบน แล้วนำแป้งในมาวาง ห่อให้มิด




4. นำมาคลึงให้เป็นวงรี แล้วม้วนเข้าหาตัว

5. หันแนวตั้ง แล้วคลึงยาวอีกครั้ง แล้วม้วนเข้าหาตัว




6.พอม้วนเสร็จจะได้รูปร่างอย่างนี้



7. ตัดแบ่งครึ่ง !!




8.พลิกให้เห็นลายดังภาพ
ทีนี้รู้แล้วใช่ไหมว่าขนมเปี๊ยะที่เรากินกันทำไมมันเหมือนซ้อนกันหลายชั้น เค้าใช้เทคนิคนี้เอง







9.รูปหลังจากปั้นสำเร็จ ตอนนี้ไส้ถั่วกับไข่เค็มก็อยู่ข้างในแล้วเป็นที่เรียบร้อย
10.นำเข้าเตาอบที่อุณหภูมิ 180 นาน 15 นาที
11.พักให้เย็น แล้วนำไปอบควันเทียน อีก 1 คืน



----------------------------------------------------------------------------------


 สูตรนี้ได้จากหนังสือ " Cake & Desserts " ของ แม่บ้านclub ค่ะ Smiley
ขอขอบคุณภาพประกอบ  http://kimleng.net/
ขอขอบคุณภาพประกอบ  คุณ กรรณิกา เจริญพูล



Read More...

"บัวลอยแก้วมะพร้าวอ่อน" จากดอกอัญชัน เหนียวๆหนึบๆ สีธรรมชาติ ตามแบบไทยจริงๆ


 วัตถุดิบ

1.น้ำจากดอกอัญชัน 1 ถ้วยตวง
2.แป้งมันสำปะหลัง 2 ถ้วยตวง
3.แป้งมันหรือแป้งท้าว 8 ช้อนโต๊ะ(สำหรับตอนทำส่วนหวานค่ะ)
4.น้ำตาลทราย 1 ถ้วยตวง
5.เกลือป่น 1  ช้อนชา
6.กะทิ  2 ถ้วยตวง
7.เนื้อมะพร้าวอ่อน
8.น้ำมะนาว นิดหน่อย
9.น้ำลอยดอกมะลิ 4 ถ้วยตวง (จะใช้ดอกมะลิ หรือกลิ่นมะลิ ขวด ได้ค่ะ)

วิธีทำ

1.นำดอกอัญชันล้างให้สะอาดนำมาตำให้ละเอียดแล้วนำไปกรองบีบมะนาวใส่นิดหน่อยสีจะม่วงขึ้นค่ะ จากนั้นนำไปต้มให้เดือดจัดแล้วนำมาเทใส่แป้งมันที่เราเตรียมไว้ รีบใช้ไม้พายคนให้เข้ากัน แล้วใช้มือนวดค่ะ

2.นำแป้งที่ได้ไปปั้นยาวๆแล้วเอามีดหั่นเล็กๆ จากนั้นนำไปต้มในน้ำเดือด พอแป้งลอยขึ้นคือสุกค่ะ ตักออกมาพักไว้ในน้ำเปล่า

3.ส่วนหวาน นำแป้งมันหรือแป้งท้าวมาผสมกะน้ำตาลทราย น้ำลอยดอกมะลิ (หรือกลิ่นมะลิ)คนให้ละลาย แล้วนำไปตั้งไฟ ให้แป้งสุก พอแป้งสุกน้ำมันจะใสๆ จากนั้นนำแป้งที่เราต้มพักไว้ มาใส่ รอให้เดือดอีกครั้ง ปิดไฟค่ะ




4.ส่วนกะทิ นำกะทิ เกลือป่น ตั้งไฟอ่อนๆ ไม่ต้องรอเดือดนะคะ พอให้อุ่นๆร้อนๆพอ นานเด๋วกะทิจะแตกมันค่ะ เสร็จแล้วคร้าา




----------------------------------------------------------




today thai news

Read More...

สูตร"แป้งซาลาเปา งาดำ " น่ากิน กว่าแป้งขาวๆ ซะอีก..ทำกิน ทำขายมีรายได้ด้วยน


 ส่วนผสมแป้งเชื้อ

แป้งเค้ก 350 กรัม + งาคั่วหอมบดหยาบๆ 1/4 ถ้วย
ยีสต์ 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำเปล่า 240 กรัม

ส่วนผสมแป้งโด

แป้งเค้ก 180 กรัม
ผงฟู 1 1/2 ช้อนชา
แป้งเชื้อที่ผสมไว้
น้ำตาลทราย 125 กรัม
เกลือป่น 1/2 ช้อนชา
น้ำเปล่า 4 ช้อนชา
เนยขาว 40 กรัม

วิธีทำแป้งเชื้อ
1. ร่อนแป้งเค้ก 2 รอบแล้วใส่ลงในอ่างผสม ใส่ยีสต์ตามลงไปคนให้ผสมเข้ากัน
2. ทำหลุมแป้งตรงกลางแล้วค่อย ๆ เทน้ำเปล่าลงไป ใช้หัวตีรูปตะขอนวดแป้งจนส่วนผสมเริ่มเป็นก้อน
3. นำส่วนผสมแป้งใส่ภาชนะแล้วคลุมด้วยพลาสติกถนอมอาหารหรือผ้าขาวบาง พักแป้งไว้ประมาณ 30-40 นาทีจนแป้งขึ้นฟูเป็นสองเท่า

วิธีทำแป้งโด

1. ร่อนแป้งเค้กกับผงฟูเข้าด้วยกัน 2 รอบ เตรียมไว้
2. ใส่แป้งเชื้อที่ทำขึ้นฟูแล้วลงในเครื่องตีแป้ง ตามด้วยน้ำตาลทราย เกลือป่น และน้ำเปล่า ตีด้วยหัวตีรูปตะขอใช้ความเร็วปานกลางนวดแป้งพอเข้ากัน
3. ค่อย ๆ ใส่ส่วนผสมแป้งที่ร่อนไว้ลงไป ตีจนพอจับตัวเป็นก้อน
4. ใส่เนยขาวลงไปนวดจนแป้งมีเนื้อเนียนและนุ่ม
5. นำก้อนแป้งออกมาคลึงเป็นก้อนกลม ใส่ภาชนะแล้วใช้พลาสติกถนอมอาหารคลุมแป้งพักไว้ประมาณ 5-10 นาที
6. แบ่งแป้งออกเป็นก้อนขนาดตามต้องการ จากนั้นคลึงเป็นก้อนกลม ๆ แล้วคลุมด้วยพลาสติกถนอมอาหารทิ้งไว้อีกประมาณ 10 นาที หรือจนส่วนผสมฟูขึ้นเป็นสองเท่าแล้วจึงนำไปห่อไส้ที่ต้องการ

ส่วนผสมไส้งาดำ

งาดำคั่วบดละเอียด 100 กรัม
นมข้นจืด 300 กรัม
นมสด 200 กรัม
แป้งข้าวโพด 60 กรัม
น้ำตาลทราย 150 กรัม
พลาสติกถนอมอาหาร (สำหรับคลุมแป้ง)
กระดาษรองซาลาเปา

วิธีทำ

1. เตรียมส่วนผสมแป้งให้พร้อม
2. ผสมงาดำ นมข้นจืด นมสด แป้งข้าวโพด และน้ำตาลทรายเข้าด้วยกัน จากนั้นนำขึ้นตั้งไฟปานกลางกวนจนส่วนผสมข้นเหนียว ตักใส่ภาชนะ พักทิ้งไว้ให้เย็นสนิท
3. แผ่แป้งซาลาเปาที่ขึ้นฟูแล้วเป็นแผ่นบาง ๆ ตักไส้งาดำที่กวนไว้ลงไปแล้วห่อให้สวยงาม วางลงบนกระดาษ พักไว้จนขึ้นฟูเป็นสองเท่า
4. นำซาลาเปาไปนึ่งบนน้ำเดือดโดยใช้ไฟปานกลางประมาณ 8-10 นาทีจนสุกยกลง นำออกจากที่นึ่ง



Read More...